หนึ่งในรอยสักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุด เราขอยกให้กับ Irezumi รอยสักของประเทศญี่ปุ่น รอยสักแบบนี้เอกลักษณ์อย่างแรกเป็นเรื่องของสี หมึกที่ใช้ตอนแรกดูว่าเป็นสีดำแต่พอสู่เนื้อผิวแล้วจะกลายเป็นสีฟ้า-เขียวส่วนอีกเรื่องเป็นรอยสักที่นำมาใช้นั้นมักจะหยิบสัตว์ ปีศาจ หรือ ความเชื่อต่างๆขึ้นมา เรามาดูกันว่า Irezumi เค้ามีรอยสักรูปอะไรกันบ้าง รอยสักรูปมังกร สัตว์ตัวแรกที่เราจะต้องนึกถึงก่อนเลยตามวัฒนธรรมของ Irezumi นั่นคือ มังกร ตามความเชื่อเล่ากันว่ามังกรเป็นสัตว์ที่มีพลังเหนืออำนาจสัตว์ทั้งปวง อาศัยอยู่บนฟ้า พร้อมกับมอบพลังความคิด สติปัญญาที่เฉลียวฉลาดอีกด้วย นอกจากนั้นมังกรที่สักไว้จะคอยปัดเป่าความชั่วร้ายที่เข้ามาอีกด้วย ปลาคราฟ สัตว์ต่อมาถือว่าเป็นความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากบ้านเรา นั่นคือ ปลาคราฟ ที่นั่นปลาคราฟเป็นสัญลักษณ์ของเด็กผู้ชาย ที่มีความหมายถึง ความอดทน ความพยายาม ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากเปรียบเหมือนกับปลาคราฟที่ว่ายทวนกระแสน้ำอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยนั่นเอง เสือ สัตว์ชนิดต่อไป ความเชื่อค่อนข้างคล้ายกับบ้านเรานั่นคือ เสือ สัตว์ชนิดนี้ตามรอยสักเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย มีอำนาจบารมีที่สุดในบรรดาสัตว์บกทั้งมวล ทำให้สัตว์ตัวนี้เป็นตัวแทนแห่งอำนาจ บารมี รวมถึงความแข็งแกร่ง ห้าวหาญไม่เกรงกลัวต่อศัตรูอีกด้วย แถมอีกนิดหนึ่งที่ญี่ปุ่นเชื่อว่าเสือเป็นตัวแทนแห่งทิศเหนือ ทำให้สามารถควบคุมลมได้ด้วย นกฟีนิกซ์ สัตว์ตัวต่อไป ไม่น่าเชื่อว่าความเชื่อของฝั่งญี่ปุ่นกับฝั่งตะวันตกจะไม่แตกต่างกันมากนัก นั่นคือ นกฟีนิกซ์ พวกเค้าเชื่อกันว่าการสัก Irezumi รูปนี้จะหมายถึงการเกิดใหม่ ความสำเร็จ ความพยายามที่ไม่รู้จักจบสิ้นจนกว่าจะสำเร็จตามที่ต้องการอีกด้วย หน้ากากยักษ์ betflik […]

จากความต้องการและเป็นที่นิยมของแฟชั่นการสัก ทำให้เครื่องมือในการสักพัฒนาขึ้นด้วย ที่สำคัญช่างสักเองแม้ว่าจะมีน้อยมากแต่ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาจนมีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับนานาชาติ เราจะพาไปรู้จักช่างสัก  tattoo ขั้นเทพที่โด่งดังตอนนี้ มาดูว่ามีใครกันบ้าง ช่างมิ้ม จากร้าน Mimp tattoo Bangkok ช่างคนแรกนั่นคือ ช่างมิ้ม จากร้าน Mimp tattoo Bangkok ช่างคนนี้ช่วงคิวแน่นๆนี่ต้องจองกันข้ามปีกันเลยทีเดียว จุดเด่นของช่างคนนี้เป็นงานผสมผสานกันระหว่างของไทย กับ ญี่ปุ่น งานของเค้ายังเคยได้ขึ้นหนังสือ inked mangazine นิตยสารด้านการสักของทางอเมริกาโน่นเลยทีเดียว รวมถึงได้ไปโชว์ผลงานที่ฝรั่งเศสอีกด้วย นับว่าไม่ธรรมดาและเป็นของจริงของวงการตอนนี้เลย ช่างตุ่น และ ข่างเจล ต่อไปเราขอยกแพ็คคู่กันมาเลยนั่นคือ ช่างตุ่นและช่างเจลแห่งร้าน 88Ink-Blood Tattoo studio ทั้งสองคนเป็นช่างสักที่อยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน ประสบการณ์และไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงานรอยสักจัดว่าดีเยี่ยมไม่แพ้ใคร ผลงานของพวกเค้ามาในสไตล์ Neo Thai Tattoo หรือ ไทยประยุกต์รูปแบบใหม่ใครสนใจไปคุยกับพี่เค้าได้ที่ปากซอยลาดพร้าว 43/2 ช่างหนึ่งที่โคราช คนต่อไปเราขอเปลี่ยนบรรยากาศจากกรุงเทพไปที่โคราชกันบ้าง ที่นั่นเราขอแนะนำไปหาช่างหนึ่งที่ร้านสักหนึ่งแทททูโคราช พี่ช่างคนนี้เจ๋งยังไง เราบอกได้เลยว่าพี่เค้าสามารถทำได้ทั้งแบบแทททูตามสมัยนิยม หรือจะสักยันต์ลงของมีครูแบบยันต์เก้ายอดก็ทำได้เหมือนกัน หายากนะช่างสักที่จะสามารถทำได้สองอย่างแบบนี้ลองไปดูผลงานพี่เค้าก่อนตัดสินใจก็ได้ ช่างเมฆ จากร้าน Tattoo […]

การสักตามร่างกายถือว่าเป็นอีกแฟชั่นหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับนักสักหน้าใหม่หลายคนอาจจะกำลังมองหาร้านสักที่ได้มาตรฐาน เป็นกันเอง ราคาไม่แพง เพราะการสักแต่ละครั้งราคาแพง และถ้าได้ร้านสักไม่ดีการจะลบแล้วสักใหม่ก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก หากอยากจะไปสักแล้วไม่ผิดหวัง ลองไปร้านต่อไปนี้ดู ร้าน Mimp Tatoo Bangkok Thailand ร้านแรกเราต้องบอกเลยว่า หากจะไปไม่ผิดหวัง แต่ต้องรออย่างมีความหวังสักหน่อย เนื่องจากคิวยาวมาก บางคนอาจจะต้องรอข้ามปีกันเลยทีเดียว ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ RCA สไตล์ของร้านนี้เป็นการผสมผสานระหว่างไทยดั้งเดิม ไทยยุคใหม่ และญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ช่างสักของร้านนี้งานของเค้าเคยขึ้นปกหนังสือด้านการสักมาแล้วรับประกันได้เลยว่ามีลวดลายให้เลือกได้อย่างจุใจ และถูกใจ ร้าน Divine Ink Tattoo ร้านต่อไปพิกัดอยู่ที่ถนนข้าวสาร ร้าน Divine Ink Tattoo ร้านนี้มีจุดเด่นที่ลวดลายการสักสไตล์ Realistic หรือแบบเสมือนจริงที่ต้องบอกว่าเหมือนจริงจนน่าตกใจเอามากๆ ร้านนี้มีช่างสักหลายคน แม้ว่าแต่ละท่านจะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน แต่มาตรฐานการสักของพวกเค้าจัดว่าสุดยอดทุกคน ส่วนตัวชอบงานทศกัณฐ์ของร้านนี้ สวยจริง ร้าน Lone wolf studio ร้านต่อไปตั้งอยู่ที่สุขุมวิท ปุณณวิถี 3 ร้านมีชื่อว่า Lone wolf studio ร้านนี้เค้าจะสักสไตล์ […]

  รอยสักเดี๋ยวนี้ถือว่าเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งที่วัยรุ่น หนุ่มสาว สนใจกันมานานแล้ว โดยเราจะพาไปรู้จักรอยสักแบบต่างๆที่เค้านิยมสักกันในสมัยนี้ว่ามีความหมาย และที่มาอย่างไรกันบ้าง อนึ่งรอยสักในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงรอยสักยันต์เพื่อความเชื่อและไสยเวทย์ต่างๆอย่างที่เราเคยได้ยินมา รอยสักที่ดัดแปลงจากชนเผ่า รอยสักแบบแรกเป็นรอยสักที่มีการดัดแปลงมาจากชนเผ่าต่างๆ ต้องย้อนรอยกันก่อนว่า แรกเริ่มเดิมทีการสักเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาวเกาะ เพื่อแสดงถึงความอดทนของผู้ชาย ผู้หญิง รวมถึงแสดงสถานะทางสังคมด้วย ทีนี้นักสักก็เอาลวดลายเหล่านั้นมาดัดแปลงให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน ลวดลายจะคล้ายกับบอกเล่าเรื่องราวของธรรมชาติผ่านลายเส้นทั้งตรงและโค้งผสมกันอย่างลงตัว เหมาะกับรูปร่างของคนที่ถูกสักด้วย รอยสักรูปการ์ตูน หรือสัญลักษณ์ รอยสักแบบต่อไปที่เป็นที่นิยมของคนชอบสัก เป็นรูปร่างของสัตว์ชนิดต่างๆ หรือ รูปร่าง สัญลักษณ์ต่างๆ การสักแบบนี้มีจุดเด่นที่เรื่องของสีและลวดลาย ที่ไม่ได้มีแค่สีดำอย่างเดียวเหมือนแบบแรกแล้ว มีการนำสีอื่นๆเข้ามาผสมทำให้ลายสักมีมิติและสวยงามมากขึ้น การสักแบบนี้จะทำให้รอยสักไม่ดูน่ากลัว เคร่งขรึมสักเท่าไร ดูสดใสร่าเริงมากกว่าใครที่ชอบสายแบ๊วน่าจะชอบกับวิธีนี้ รอยสักเสมือนจริง ทีนี้เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง ทำให้วงการสักพัฒนาตัวเองไปอีกทั้งเรื่องของเครื่องมือ การสร้างสรรค์ และวิธีการ โดยช่างสักจะสักรูปภาพในลักษณะที่เรียกว่าเสมือนจริงเอามากๆ ถามว่าเหมือนแค่ไหน ก็เหมือนจนภาพที่เราสักนั้น หากมองให้ดีเหมือนกับว่าจะพุ่งออกมาจากร่างกายของเราเลยทีเดียว การสักแบบนี้ต้องใช้ช่างที่มีฝีมือและมีความชำนาญอย่างแท้จริง แม้ว่าจะราคาสูงแต่รับรองเลยว่า รอยสักของเราจะทำให้ทุกคนต้องหันกลับมามองอีกครั้งอย่างไม่กระพริบตา รอยสักของชาวญี่ปุ่น รอยสักประเภทต่อไป ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลย นั่นคือรอยสักที่เราเรียกว่า Irezumi รอยสักแบบนี้หากจะให้ร้องอ๋อ ก็คงต้องนึกภาพเหล่ายากูซ่าที่จะมีการสักไว้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เพื่อแสดงตัวตนของตัวเอง การสักแบบนี้ส่วนมากจะเป็นการสักรูปสัตว์ ปีศาจ อสูร หรือ อะไรก็ตามที่สื่อถึงพลังอำนาจที่น่าเกรงขามในตัวเอง […]

การสักรอยสักสมัยนี้ไม่ได้มีแต่การสักอย่างเดียวที่พัฒนาไปเยอะมาก เทคโนโลยีและวิธีการลบรอยสักก็พัฒนาขึ้นไปมากด้วยเช่นกัน เหมือนก่อนหากจะลบรอยสักทั้งทีดูจะเป็นไปได้ยากและราคาแพง แต่เดี๋ยวนี้บางวิธีทำได้ดีขึ้นแถมราคายังถูกลงด้วย(แต่ก็ยังสูงอยู่) มาดูกันว่าหากอยากลบรอยสักมีวิธีไหนทำได้บ้าง ยิงเลเซอร์ วิธีแรกของการลบรอยสักที่ได้ผลดีที่สุด นั่นคือการเข้ารับการยิงเลเซอร์ วิธีนี้แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ลงไปในผิวเพื่อทำให้น้ำหมึกที่สักนั้นแตกกระจายตัวและบางลง จนสุดท้ายรอยสักจางลงไปในที่สุด แม้ว่าวิธีนี้จะเจ็บตัวน้อย มีผลข้างเคียงน้อย ใช้เวลาไม่นาน แต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก จะลบแต่ละทีต้องเตรียมตัวพอสมควรทีเดียว ใช้ครีมลบรอยสัก หากวิธีแรกไม่อยากทำเพราะแพง เดี๋ยวนี้เราสามารถเลือกใช้ครีมทาผิวที่มีคุณสมบัติในการลบรอยสักได้แล้วเหมือนกัน แต่วิธีนี้ต้องบอกว่าข้อดีคือไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพึ่งหมอ แต่ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่อาจจะต้องนานถึงนานมากเลย ครีมจะทำปฏิกริยากับหมึกในผิวของเราแล้วก็ค่อยจางๆไปเองในที่สุด (อย่างน้อยก็ต้อง 1 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นความจางของหมึก) การผ่าตัดด้วยมีดหมอ การพึ่งพาหมออีกวิธีหนึ่ง นั่นคือการผ่าตัด วิธีนี้บอกก่อนเลยว่าเหมาะสำหรับรอยสักที่ไม่ใหญ่มากเท่านั้น เพราะมันคือการกรีดเพื่อขูดเอาผิวหนังที่สัก หรือ เฉือนเนื้อตัวเองออกไปนั่นแหละพูดง่ายๆ วิธีนี้บอกเลยว่าเจ็บมากทีเดียว แถมยังใช้ได้เฉพาะจุดด้วย หากไปสักบางบริเวณก็ไม่สามารถผ่าตัดออกได้เหมือนกัน ใช้การขัดผิวหนังเพื่อลบ อีกวิธีการหนึ่งที่คล้ายกัน นั่นคือ การขัดผิวหนัง วิธีนี้คล้ายกับเราขูดผิวหนังตัวเองนั่นแหละ สามารถใช้กับรอยสักขนาดเล็ก กับ ขนาดกลาง แต่แบบใหญ่ๆเต็มหลังนี้ไม่น่าจะได้นะ วิธีนี้ข้อเสียคือมันจะทำให้เราแสบ บวม แดง ผิวหนังบริเวณนั้นไปสักระยะหนึ่งเลย ต้องกินยาและทายาเพื่อทำให้ทุกอย่างไม่ปวด ทำเองด้วยสารพัดวิธีการ วิธีสุดท้าย ที่ส่วนตัวอ่านแล้วก็งงๆ เป็นการลบรอยสักของตัวเองด้วยสารพัดวิธีการ สารพัดสูตร ไม่ว่าจะเป็นการลบรอยสักด้วยปูนแดง […]

การสัก ปัจจุบันถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวนี้มีหนุ่มสาวสมัยใหม่หลายคนอยากแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาโดยการสักลวดลายต่างๆตามร่างกาย บางครั้งก็อาจจะโชว์ให้เห็นไปเลย หรือ บางครั้งอาจจะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก เชื่อหรือไม่ว่าการสักนั้นมีประวัติมายาวนานแล้ว อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ประเพณีต่างๆด้วย วันนี้เราจะพาไปย้อนดูต้นกำเนิดของการสักแต่ละประเทศ แต่ละชนเผ่ากันว่ามีความหมายอย่างไร การสักของไทย เริ่มกันที่ไทยเราก่อนเลย หากจะมองการสักในเรื่องของความเชื่อ ของขลัง ไสยเวทย์แบบต่างๆ ก็มีประวัติเริ่มมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่นเลย ตอนนั้นสักอักขระเป็นภาษาขอม หรือ ภาษาบาลี หรือที่เราเรียกว่าการลงยันต์นั่นแหละ ส่วนอีกความหมายถึงเป็นการสักด้านการปกครอง สมัยอยุธยาตอนต้นมีการสักที่ข้อมือเพื่อทำประวัติประชากรชาย หรือสักที่ท้องแขนเพื่อตีตราว่าเคยติดคุกมาก่อน ก็มีเหมือนกัน การสักของชาวอียิปต์ ไปที่ดินแดนแห่งความลี้ลับอย่าง อียิปต์ ที่นั่นก็มีการสักเหมือนกัน จากประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าที่นั่นมีการสักตั้งแต่ 4,000 ปีมาแล้ว เราจะพบว่าที่ มัมมี่ จะมีการสร้างรอยสักไว้อย่างงดงาม ที่ต้องทำแบบนี้เชื่อกันว่า รอยสักจะเป็นการส่งสัญญาณหรือรหัสบางอย่างให้วิญญาณรู้ว่า ร่างกายตัวเองอยู่ที่ไหนจะได้เดินทางมาเข้าร่างได้ถูกต้องนั่นเอง การสักของชนเผ่าเมารี บินกลับไปที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่นั่นมีชนเผ่า เมารี เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอายุมาอย่างยาวนั้น พวกเค้ามีประเพณี วัฒนธรรมเกี่ยวกับความเชื่อด้วย นั่นคือหากเยาวชนคนไหนที่คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว จะต้องผ่านพิธีการสักเสียก่อน จึงจะสามารถมีครอบครัวได้ อันนี้ก็เป็นกุศโลบายรูปแบบหนึ่งเพราะการสักต้องผ่านการเจ็บปวดมาก่อน หากผ่านได้แสดงว่าสภาพจิตใจพร้อมแล้ว การสักของชาวญี่ปุ่น ดินแดนพระอาทิตย์อุทัยก็มีความเชื่อเรื่องสักคล้ายกับชาวเมารี ที่นั้นเชื่อว่าประวัติด้านการสักมีอายุประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว […]